สรุปย่อๆ
ข่าวนี้บอก วัยรุ่นอเมริกันส่วนใหญ่ไม่รู้กันว่า 9/11 คืออะไร
คนที่ถูกสอนอย่างจริงจังมีแค่ 2 ใน 10 คนเท่านั้น
คือถึงจะรู้ว่าหมายถึงอะไร
แต่ก็แทบไม่ได้รู้รายละเอียด
และสงครามอัฟกันใน 20 ปีที่ผ่านนั้นเป็นข่าวที่ถูกลืม
แทบไม่ได้ถูกรายงานในประเทศ
จนมาถึงช่วงนี้ที่แพ้สงครามอัฟกัน
คนถึงได้รู้กันว่า
อ้อ ที่ไปสู้ในอัฟกันแต่แรกนะ
เพราะ 9/11 นี่เป็นเหตุนะ
----------------------------------
ซึ่ง 9/11 นั้นเกิดมา 20 ปีก่อน
วัยรุ่นช่วงอายุ 10-20 นี้คือคนที่เกิดมาหลังช่วงเวลานั้นมาแล้ว
ซึ่งในอเมริกานั้น
สิทธิในการเลือกสอนเนื้อหาวิชาประวัติศาสตร์
ไม่ได้เป็นเรื่องที่ประเทศจะมาชี้ว่าต้องเรียนตามสั่ง
แต่ถือเป็นวินิจฉัยของครูและองค์กรท้องถิ่น
ทำให้คุณครูสามารถสอนอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ได้
แต่ก็แลกมากับการที่เนื้อหาในการสอนจะขึ้นอยู่กับครูแต่ละคน
โดยใน 50 รัฐ มีแค่ 14 รัฐเท่านั้นที่กำหนดว่า
ต้องบังคับให้เรียนเกี่ยวกับ 9/11
แต่ขนาด New York ที่เป็นศูนย์กลางของเหตุการณ์
ก็ไม่ได้กำหนดว่าครูแต่ละคนต้องสอนเจาะจงเรื่องอะไรบ้าง
แถมส่วนใหญ่จะสอนกันท้ายหลักสูตรเพราะไม่มีเวลาจะเอามาใส่
แล้ววันที่ 11 กันยานี่ก็เป็นช่วงที่หลายโรงเรียนพักร้อนกัน
ก็เลยไม่มีการจัดกิจกรรมด้วย
---------------------------------------
นักเรียนคนหนึ่งกล่าว
เธอพึ่งจะรู้ว่าสงครามอัฟกันนี่เป็นศึกล้างแค้นเหตุ 9/11
เพราะไม่มีใครสอน ไม่ว่าจะในโรงเรียนหรือที่บ้าน
แล้วนึกมาตลอดว่านี่เป็นศึกสู้เพื่อปกป้องประชาชนชาวอัฟกัน
แต่ถึงรู้แล้ว ก็ยังไม่เข้าใจถึงวิกฤติที่อาจเกิดขึ้นได้ในปัจจุบัน
เพราะไม่รู้ลึกเรื่องเหตุการณ์ 9/11
------------------------
ซึ่งจริงๆแล้วจะโทษเด็กอย่างเดียวก็ไม่ได้
เพราะ 20 ปีที่ผ่านมานี้
สงครามอัฟกันนั้นถือว่าเป็นข่าวที่ถูกลืม
คือ Bush สร้างผลงานไม่ได้แถมยังลามไปสงครามอิรัก
กว่าจะฆ่า Bin Laden ได้ก็ใช้เวลา 10 ปีหลังเริ่มสงคราม
แถม Obama ที่พยายามจะยุติสงครามก็ต้านฝ่ายค้านไม่ไหว
ทำให้สงครามยืดเยื้อมาอีก 10 ปี
มันก็เลยมีการพยายามไม่ทำให้มันเป็นข่าว
เพื่อไม่ให้ประชาชนรับรู้ถึงความล้มเหลวของรัฐ
---------------------------------
หลังจากถอยทัพมาจากอัฟกัน
ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างเห็นกันว่าสงครามหยุดได้ก็ดีแล้ว
แต่ก็ยังห่วงผู้ที่ยังติดค้างอยู่
แต่ข้อแตกต่างระหว่างวัยที่รู้เรื่อง 9/11 กับไม่นั้น
คือการที่คนรุ่นเด็กกว่าค่อนข้างนิ่งต่อสถานการณ์ปัจจุบัน
คือเห็นว่ามันเป็นศึกที่ก่อเพื่อล้างแค้น
แถมทำมา 20 ปีก็ไม่มีอะไรดี อยู่ไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา
อเมริกาก็แค่ย้อนประวัติศาสตร์สงครามอ่าวกับสงครามเวียดนามอีกรอบ
แถมตามมาด้วยกลุ่มทฤษฏีสมคบคิด
ว่าทำไปเพื่อน้ำมัน
หรือไม่ก็ระเบิดตึกเองอีกต่างหาก
เมื่อเทียบกับคนรุ่นก่อนที่สนับสนุนการส่งทหารกัน
จะเห็นได้ว่า คนสองรุ่นนี้มีความเห็นต่างกันขนาดไหนแล้ว
----------------------------------
นอกไปจากนี้ ยังมีอีกหลายเรื่องที่รัฐปิดกั้น
ไม่ยอมเผยแพร่ต่อประชาชน
เช่นจนป่านนี้ ศาลก็ยังไม่ตัดสินคดีผู้ก่อการร้ายครั้งนั้นเลย
และผู้ร่วมก่อการส่วนที่ถูกกุมขังอยู่
ก็คงจะอยู่ในนั้นไปจนตาย
ทำให้ประชาชนอยู่ในสภาพเข้าไม่ถึงความจริงอะไรทั้งนั้น
พอๆกันกับคนญี่ปุ่นปัจจุบัน
ที่แทบไม่ถูกสอนเรื่องต้นเหตุสงครามโลกครั้งที่สองเลย
----------------------------
แต่ในขณะเดียวกัน
การที่คนอเมริกาเรียนรู้เรื่องสังคมจากสารคดีหรือเน็ตแทน
ทำให้ผู้ที่รักชาติอย่างหน้ามืดตามัวนั้นลดลงเรื่อยๆ
ซึ่งอเมริกานั้นเป็นชาติที่ถูกสร้างขึ้นมา
บนความไม่เที่ยงธรรมแต่แรก
อย่างเรื่องทาสก็ไม่ค่อยจะได้มีสอนกัน
จนมันลามไปถึงเหตุการณ์ Black Lives Matter
ที่ประชาชนมาแชร์ความรู้รณรงค์กันเอง
โดยเฉพาะยิ่งพวกเขาไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์โดยตรงด้วย
ทำให้เรื่องความเป็นวีรบุรุษและความรักชาตินั้น
ไม่ได้เป็นเรื่องที่พวกเขาถือว่ามีค่ากัน
และมันกลับทำให้พวกเขาคิดกันอีกว่า
มันต้องมีเรื่องความจริงอะไรสักอย่างที่รัฐไม่ได้บอกพวกเราสิ
และคิดว่าเราควรจะมาแก้ไขข้อผิดพลาดที่เคยทำกันไว้
ถึงจะค่อยมารู้สึกรักชาติได้
มากกว่าการจะมารักชาติอย่างหน้ามืดตามัวแทน
//-------------------------------------------------
//-------------------------------------------------
//-------------------------------------------------
อธิบายเสริมหน่อย
ถ้าเรายึดเอาหลักการตามพิชัยสงครามของซุนวู
การส่งทหารไปอัฟกันมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ครับ
การที่อเมริกาต้องรับศึกผู้ก่อการร้ายในบ้านตัวเอง
ถือเป็นการตั้งรับที่ตัวเองมีแต่จะเสีย
และส่งผลโดยตรงต่อความปลอดภัยของประชาชน
แต่เมื่ออเมริกาส่งทัพไปอัฟกัน
ผู้ก่อการร้ายจะตกเป็นฝ่ายตั้งรับ
ที่จำเป็นต้องแบ่งทรัพยากรไปเพื่อป้องกันมาตุภูมิของตนเอง
การกระทำดังกล่าว
เป็นการยอมเสียทรัพย์และกำลังทหาร
เพื่อยกเอาพื้นที่สมรภูมิออกนอกเขตแดนของตัวเอง
ไปสู่พื้นที่ของศัตรู
ทำให้ถึงแม้ว่าจะมีการสูญเสียของทหาร
แต่มันก็แลกมาด้วยความปลอดภัยที่มากขึ้น
ของประชาชนในดินแดนของตนเอง
-------------
แต่ในปัจจุบัน
เนื่องจากมีการถอนทหารออกมาแล้ว
พื้นที่ในอัฟกันจึงไม่ได้เป็นสมรภูมิระหว่างกันอีก
ตาลีบัน จึงมีกำลังสำหรับใช้ในเชิงรุกได้มากขึ้น
ซึ่งหากตาลีบันยังยึดมั่นในมาตรการและอุดมคติเดิม
ที่อาจนำมาสู่การก่อการร้ายได้
เหตุการณ์อย่าง 9/11
จึงอาจเกิดขึ้นได้อีก
ซึ่งเป็นเหตุให้คนรุ่นก่อน
รู้สึกวิตกกันกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
มากกว่าคนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยผ่าน 9/11 กันมา
------------------------
ซึ่งถ้าเป็นคนรุ่นผม
ก็คงจะรู้กันครับว่า
หลังเหตุการณ์อันนั้น
โลกได้เปลี่ยนไปในทางเลวร้ายกันขนาดไหน
ไม่ใช่แค่เรื่องมีคนตายจากเหตุการณ์ตึกถล่ม
แต่มันนำไปสู่ปัญหาต่างๆทั่วโลกนานนับ 10 ปี
ทั้งในเรื่องการเมือง เศรฐกิจ
การแบ่งแย่ง การสร้างความเกลียดชัง
และอื่นๆ
ซึ่งมันไม่ควรจะเกิดขึ้นอีกครับ